ในยุคที่ตลาดการเงินและการลงทุนเต็มไปด้วยความผันผวน เราต้องมองหาทางเลือกที่มีความน่าสนใจและประสบความสำเร็จในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับเงินทุนของเรา การลงทุนที่น่าสนใจได้แก่หลายประเภท เช่น หุ้น, ทองคำ, และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากมีความเสถียรและมั่นคงในระยะยาว ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่น ๆ อสังหาริมทรัพย์มีความผันผวนน้อยกว่า และให้ผลตอบแทนที่มีมูลค่ามากกว่า มาดูว่าปี 2566 สามารถลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบไหนได้บ้าง
ปี 2566 สามารถลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบไหนได้บ้าง
1. การลงทุนแบบเก็งกำไร
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบเก็งกำไรเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนมือใหม่สนใจ เนื่องจากมีความน่าสนใจและผลตอบแทนที่ได้เร็ว โดยส่วนใหญ่นักลงทุนจะทำกำไรจากการซื้อใบจองหรือหน่วยที่มีราคาต่ำและขายในราคาที่สูงขึ้นเมื่อโครงการพัฒนาไปข้างหน้า นักลงทุนจะลงทุนเงินทุนเพียงเล็กน้อยเพื่อซื้อใบจองหรือหน่วยในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดให้จอง โดยทั่วไปจะใช้เงินลงทุนระหว่าง 50,000-100,000 บาท หลังจากที่ทำการจองเสร็จสิ้น นักลงทุนรอให้ราคาของใบจองหรือหน่วยในโครงการเพิ่มขึ้น แล้วจึงขายในราคาที่สูงกว่า
การลงทุนแบบนี้มักจะเน้นที่ระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเร็ว และเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ การลงทุนแบบเก็งกำไรมักจะคำนึงถึงเวลาที่เหมาะสมในการขายใบจองหรือหน่วย ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน การทำกำไรจากใบจองหรือหน่วยในโครงการอสังหาริมทรัพย์มีความเร็วและให้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องระวังความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ เช่น ความผันผวนในราคา, การเปลี่ยนแปลงในตลาด และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการ
2. การลงทุนแบบปล่อยเช่ารายเดือน
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่ารายเดือนเป็นกลยุทธ์ที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในหลายประเภทของอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, หรืออาคารพาณิชย์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และทฤษฎีการลงทุนของแต่ละนักลงทุน ทำเลที่ตั้งมีความสำคัญสูงในการเลือกทรัพย์สินที่จะลงทุน เนื่องจากทำเลที่ดีสามารถสร้างความต้องการจากผู้เช่ามากขึ้น การเลือกทำเลที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก, สถานที่ทำงาน, หรือสิ่งสำคัญอื่น ๆ สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินและช่วยในการปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น
การให้บริการทรัพยากรที่ดีเช่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ครบถ้วนสามารถเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ผู้เช่าตัดสินใจเลือกเช่าทรัพย์สิน นอกจากนี้ การรักษาทรัพย์สินให้ในสภาพดีและมีการบำรุงรักษาที่ดีสามารถสร้างความพึงพอใจในการเช่าและเพิ่มความน่าสนใจในทรัพย์สิน ราคาค่าเช่าที่เหมาะสมกับท้องตลาดในพื้นที่นั้น ๆ เป็นปัจจัยที่สำคัญในการดึงดูดผู้เช่า การวิเคราะห์ราคาเช่าในพื้นที่เปรียบเทียบกับคุณค่าที่ให้มีการอัพเดตตลอดเวลาจะช่วยในการตัดสินใจเรื่องราคาที่เหมาะสม
3. การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์
การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แต่ไม่ต้องดูแลหรือจัดการโครงการด้วยตัวเอง นักลงทุนจะลงทุนในกองทุน ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ที่ถูกทำการบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มีความสะดวกสบายและเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ มีการแจกจ่ายผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลที่เป็นรายเดือนหรือรายปี ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้ในทางด้านการลงทุน ผลตอบแทนจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มักจะมีความน่าเชื่อถือสูง และนักลงทุนไม่ต้องห่วงเรื่องการจัดการหรือบำรุงรักษาทรัพย์สิน ทีมผู้เชี่ยวชาญในกองทุนจะรับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สิน ค่าเช่าจากทรัพย์สินที่ซื้อด้วยกองทุนมักถูกนำมาแบ่งปันให้นักลงทุน ซึ่งทำให้มีรายได้สม่ำเสมอและน่าสนใจในระยะยาว
4. การลงทุนรีโนเวท
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยการซื้อบ้านมือสองหรือคอนโดมือสองแล้วตกแต่งใหม่เพื่อขายต่อมักเป็นกลยุทธ์ที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงได้ โดยเฉพาะในกรณีที่สามารถหาทรัพย์สินที่มีราคาถูกและมีโอกาสในการปรับปรุงให้มีมูลค่าเพิ่มได้ การลงทุนแบบนี้มักจะเน้นทรัพย์สินที่ต้องการการปรับปรุงและตกแต่งที่สามารถดำเนินการได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนมากในด้านค่าใช้จ่ายในการซื้อทรัพย์สินให้เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ การเลือกทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีและมีความต้องการสูงในตลาดก็เป็นจุดเด่นที่สำคัญในการทำกำไรจากการขายต่อภายหลังของนักลงทุน
การเลือกทรัพย์สินจากการประมูลกรมบังคับคดีหรือทรัพย์สินจากสถาบันการเงินที่ขายด้วยราคาถูกก็เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากสามารถหาทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่เหมาะสมและมีโอกาสในการลงทุนได้ นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับสถานที่ตั้งที่ดี ซึ่งมีการพัฒนาในอนาคต อาจช่วยให้ทรัพย์สินมีมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น ควรทราบถึงความต้องการของตลาดในพื้นที่นั้น ๆ และวางแผนการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้การขายต่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว การตั้งราคาทรัพย์สินให้เหมาะสมกับตลาดเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการสร้างกำไรจากการขายต่อทรัพย์สินที่ถูกต้อง
สรุป
ทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบการลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่ ตัดสินใจลงทุนที่เหมาะกับความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น ในปี 2566 แต่อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง จะเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ ก็มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ก่อนลงทุนจึงควรเตรียมความพร้อม ศึกษารูปแบบการลงทุนที่สนใจ ประเมินความเสี่ยง รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มค่าหรือไม่ ก่อนที่จะลงทุน
เรียบเรียงบทความโดย First Land